กลุ่มวาดภาพ
- เอกวิทย์ + ฉัตรนรินทร์ = วาดด้วยมือ + ลงสี ในส่วนของ
- Foot
- Skull
- Sacrum
- Hand
- Coccyx
- จรรยาพร + กมลชนก + อลิศา = Photoshop ในส่วนของ
- Long bone
- Clavicle
- Rib
- Scapula
- Sternum
- ขวัญลดา + ศิรดา = Photoshop ในส่วนของ
- Hip
- Spine C , T , L .
และทำ QC ด้วย ตรวจภาพก่อนส่งฝ่าย ANATOMY
สรุป ณ.วันที่ 9 พย. 54
วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
RT e-Learning กับภาวะน้ำท่วมกรุงเทพ
น้ำท่วมคราวนี้ สาหัสเป็นยิ่งนัก ทำให้การเรียนการสอนหยุดไปถึงวันที่ 14 พย. 54 ( ซึ่งหยุดไปแล้ว 3 สัปดาห์ทำท่าจะหยุดต่อไปอีก ถึง 28 พย. 54 ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว รวมแล้วจะหยุดไปถึง 5 สัปดาห์ การเรียนการสอนของปี 3 ซึ่งเทอมปลายปกติจะไม่มีหยุดก็แน่นอยู่แล้ว ยังต้องติดลบไปอีก 5 สัปดาห์ก็ยังไม่รู้ว่าจะเปิดเทอมได้หรือเปล่า รวมทั้ง TERM PAPER ที่ต้องทำอยู่ ก็เลยคิดว่า งาน TERM PAPER ที่ได้ให้ไปทำคืองานรูปในระบบโครงกระดูกก็ยังต้องดำเนินต่อไป ส่วนการสอนทำ POWER POINT ที่จะบันทึกเสียงและทำเป็น AUTHROPOINT LITE และ PRESENTER 7 ก็จะสอนทาง
อีเลิร์นนิ่งแทนไปเลย
ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลรวมทั้งความร่วมมือและความเสียสละในเวลากว่า 3 ปีของคณาจารย์ภาควิชารังสีเทคนิคที่ได้ไปเรียนหลักสูตร e-Learning Professional จากมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้สอนได้ทันทีในขณะที่การปิดการเรียนการสอนรวมทั้งการฝึกงานที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้เมือไหร่เพราะไม่มีผู้ใดออกมาบอกได้ว่าน้ำจะลดตอนไหน และจะเปิดการเรียนการสอนได้ไหม แต่ทีมงาน RT e-Learning ก็ได้นำอีเลิร์นนิ่งมาใช้สอนในวิชา TERM PAPER เลย โดยจะเริ่ม POSTบทความต่าง ๆ ลงไปใน BLOG นี้ และให้นักศึกษาที่อยู่ตามที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยและทั่วโลกได้เรียนพร้อมกันไปเลยนะครับ โดยเริ่มทำตั้งแต่วันพุธที่ 9 พย. 54 เป็นต้นไป
สำหรับหัวข้อต่าง ๆ ผมจะทยอยลงใน BLOG ไปเรื่อย ๆ นะครับ
สวัสดีครับ จากพี่หมอ
อีเลิร์นนิ่งแทนไปเลย
ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลรวมทั้งความร่วมมือและความเสียสละในเวลากว่า 3 ปีของคณาจารย์ภาควิชารังสีเทคนิคที่ได้ไปเรียนหลักสูตร e-Learning Professional จากมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้สอนได้ทันทีในขณะที่การปิดการเรียนการสอนรวมทั้งการฝึกงานที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้เมือไหร่เพราะไม่มีผู้ใดออกมาบอกได้ว่าน้ำจะลดตอนไหน และจะเปิดการเรียนการสอนได้ไหม แต่ทีมงาน RT e-Learning ก็ได้นำอีเลิร์นนิ่งมาใช้สอนในวิชา TERM PAPER เลย โดยจะเริ่ม POSTบทความต่าง ๆ ลงไปใน BLOG นี้ และให้นักศึกษาที่อยู่ตามที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยและทั่วโลกได้เรียนพร้อมกันไปเลยนะครับ โดยเริ่มทำตั้งแต่วันพุธที่ 9 พย. 54 เป็นต้นไป
สำหรับหัวข้อต่าง ๆ ผมจะทยอยลงใน BLOG ไปเรื่อย ๆ นะครับ
สวัสดีครับ จากพี่หมอ
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554
e-Learning และ EDUCATIONAL RESEARCH ที่กำลังจะได้รับการแก้ไขโดยตนเอง
TERM PAPER ของนักศึกษารังสีเทคนิคชั้นปีที่ 4 สำหรับปีการศึกษานี้ ได้ทำขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขของคณะ ที่หมักหมมมาหลายปี คือ เรามีการสัมมนาต่างจังหวัดกันมา 2 ครั้ง ( ปี ) หมดเงินไปก็เยอะ มีแต่ผู้ไม่รู้มานั่งสรุปและคุยกันแบบ ขำ ๆ แล้วก็ไม่ได้อะไร ที่นี่เขาจะถนัดที่จะเอาคนมาร่วมประชุม ทำดูคล้าย ๆ ว่ามีผู้เชี่ยวชาญมา BRAIN ( AND SPINAL CORD ) STROM เสร็จแล้วก็ไม่ได้เนื้อหาสาระอะไร
พวกเราเลยรู้สึกเบื่อที่จะมานั่งประชุมกับผู้ไม่รู้ หรือผู้ที่จำเอาขี้ปากของคนอื่นมาเล่าให้ฟังต่อแล้วอ้างตนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี่เรื่องนั้น ทำเอาเวลาที่ควรจะไปทำอย่างอื่น ก็ไม่ได้ทำ คนทำงานก็เหลือแค่ 9.5 คน ต้องดูแลทั้งสาขาวิชา แต่ก็ต้องเอาตัวรอด และเป็นผู้นำตลอด
ในปีนี้ คงจะหวังพึ่งอะไร ( และหมดความคิดที่จะหวัง ) จากใครไม่ได้ทั้งนั้น จึงได้จัดทีมอิสระขึ้นมาเอง ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัตใคร ทุกคนมีความคิดอิสระทางวิชาการที่จะเสนอ ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำเหมือนเด็ก ๆ ข้างบ้าน จึงได้จัดกลุ่ม RT e-Learning Center ขึ้นมาที่จะได้เข้ามาช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง และ EDUCATIONAL RESEARCH ให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น เราต้องช่วยกันเริ่มจากชุมชนเล็ก ๆ สร้างกลุ่มขึ้นมา กลุ่มนี้จะต้องประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ คล้ายกับส่วนต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเป็นคนขึ้นมาฉันนั้น ผมบอกตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เริ่มเรียนวิชาแรกแล้วว่า พบเพื่อนใหม่ พบสิ่งใหม่ ๆ เป็นเรื่องจริงครับ ถ้าทุกคนถนัดคนละอย่าง เราก็สามารถสร้างงานขึ้นมาได้ครับ
เหมือนกับเทอมนี้ ผมดีไซน์งานใหม่ ให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ลองแยกงานกันทำตามที่ตนถนัด โดยผมกำหนดว่า
1. จะต้องสร้างสื่อบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่เรียน เช่น วิชากายวิภาคศาสตร์
2. ต้องมีปฏิสัมพันธ์สด เช่นใช้ RED 5 หรือโปรแกรมอื่น ๆ
3. มีการออกข้อสอบทดสอบความรู้ของผู้เรียนให้ CONCEPT ตรงกับสื่อการสอนที่อธิบายถึงวิธี และแนวทางการออกข้อสอบให้เข้ามาตรฐานสากล
4. โปรแกรมที่ใช้ ขอเป็น OPEN SOURCE ให้มากที่สุด
5. รูปภาพที่ใช้ ให้วาดใหม่ทั้งหมด , มีการบันทึกเสียงเหมือนสอนจริง , มี ANIMATION ที่เหมาะสมและจำเป็นจริง ๆ
6. ให้แขวนสื่อการสอนที่ทำเสร็จ ไว้บน MOODLE และให้น้องปี 3 มาทำการเรียนจริง
7. มีการประเมินสื่อ ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา / คอมพิวเตอร์ / นักผลิตสื่อ อย่างละ 3 คน และจากผู้เรียน 3 , 9 และ อย่างน้อย 30 คน แบบเหมือนตำราเปี๊ยบเลย โดยใช้สถิติที่เป็น FREE WARE เช่น OPEN STAT , PSPP ฯลฯ
8. ทำอย่างที่ทำให้ระวังเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์
9. ข้อสุดท้ายนี่สำคัญมากครับ คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งนั้น เพราะได้ยินคนที่อยู่ที่นั่นเล่าให้ฟังว่า บ้านที่เพื่อน ๆ ของเรา อยู่ก็เป็นบ้านที่เล็ก ๆ ต้องอาศัยคนอื่นอยู่ เขาก็มาไล่ทุกวัน ( อาจารย์โอ๊บ เป็นคนบ่นให้ฟัง ) ชั้นหนึ่งที่ศิริราชก็โดนแย่งไปแล้ว พอเขามีสตางค์ ก็จะไปแบ่งลูกคนโปรดก่อน ลูกเหลือขออย่างเพื่อนเราก็ต้องอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ประทังชีวิตไปวัน ๆ ( มากว่า 40 ปี ) อยู่อย่างจน ๆ อดมื้อพอมีกินบางมื้อ ปากกัดตีนถีบไปเรื่อย ๆ เบื่อจริง ๆ เมื่อไหร่จะได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ซักที ทุกวันนั่งกินช้าวไป ก็ทนดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไป ไม่รู้ว่าคนที่นั่นเขาจะมีความสุขกับการกินข้าวพร้อมกับดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไปหรือเปล่า ? หรือคนที่นั่นชอบแบบนี้ ชีวิตและจิตใจจึงไม่เหมือนคนอื่น แต่เพื่อนเราไม่มีความสุขเลย วันก่อนมีข่าวดี พี่ตรีพงษ์ ติรางกูร ชวนให้ไปช่วยกันสร้างบ้านใหม่ ไม่ต้องไปทนอยู่อย่างอึดอัดแบบนี้ เขายังสงสัยว่า ทนได้อย่างไร มาตั้ง 40 ปี และไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนในส่วนนี้ งบประมาณที่มีอยู่ต้องเอาไปทำในสิ่งที่สำคัญกว่าก่อน จึงไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนอะไรทั้งนั้น ใครชอบจะทำอะไร ก็ทำกันไปตามใจรัก ทุกคนจึงต้องเอาโน๊ตบุ๊คที่พ่อแม่ซื้อให้เป็นรางวัลตอนสอบเอ็นทรานติด หรือเอาเงินที่กู้จาก กยศ มาซื้อ มาทำโปรเจ็คนี้ครับ
วันนี้ ขอเสนอ ไอเดีย ขำ ๆ แค่นี้ ก่อนนะครับ
สวัสดีครับ จากพี่หมอ p0119 tcu
พวกเราเลยรู้สึกเบื่อที่จะมานั่งประชุมกับผู้ไม่รู้ หรือผู้ที่จำเอาขี้ปากของคนอื่นมาเล่าให้ฟังต่อแล้วอ้างตนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี่เรื่องนั้น ทำเอาเวลาที่ควรจะไปทำอย่างอื่น ก็ไม่ได้ทำ คนทำงานก็เหลือแค่ 9.5 คน ต้องดูแลทั้งสาขาวิชา แต่ก็ต้องเอาตัวรอด และเป็นผู้นำตลอด
ในปีนี้ คงจะหวังพึ่งอะไร ( และหมดความคิดที่จะหวัง ) จากใครไม่ได้ทั้งนั้น จึงได้จัดทีมอิสระขึ้นมาเอง ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัตใคร ทุกคนมีความคิดอิสระทางวิชาการที่จะเสนอ ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำเหมือนเด็ก ๆ ข้างบ้าน จึงได้จัดกลุ่ม RT e-Learning Center ขึ้นมาที่จะได้เข้ามาช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง และ EDUCATIONAL RESEARCH ให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น เราต้องช่วยกันเริ่มจากชุมชนเล็ก ๆ สร้างกลุ่มขึ้นมา กลุ่มนี้จะต้องประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ คล้ายกับส่วนต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเป็นคนขึ้นมาฉันนั้น ผมบอกตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เริ่มเรียนวิชาแรกแล้วว่า พบเพื่อนใหม่ พบสิ่งใหม่ ๆ เป็นเรื่องจริงครับ ถ้าทุกคนถนัดคนละอย่าง เราก็สามารถสร้างงานขึ้นมาได้ครับ
เหมือนกับเทอมนี้ ผมดีไซน์งานใหม่ ให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ลองแยกงานกันทำตามที่ตนถนัด โดยผมกำหนดว่า
1. จะต้องสร้างสื่อบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่เรียน เช่น วิชากายวิภาคศาสตร์
2. ต้องมีปฏิสัมพันธ์สด เช่นใช้ RED 5 หรือโปรแกรมอื่น ๆ
3. มีการออกข้อสอบทดสอบความรู้ของผู้เรียนให้ CONCEPT ตรงกับสื่อการสอนที่อธิบายถึงวิธี และแนวทางการออกข้อสอบให้เข้ามาตรฐานสากล
4. โปรแกรมที่ใช้ ขอเป็น OPEN SOURCE ให้มากที่สุด
5. รูปภาพที่ใช้ ให้วาดใหม่ทั้งหมด , มีการบันทึกเสียงเหมือนสอนจริง , มี ANIMATION ที่เหมาะสมและจำเป็นจริง ๆ
6. ให้แขวนสื่อการสอนที่ทำเสร็จ ไว้บน MOODLE และให้น้องปี 3 มาทำการเรียนจริง
7. มีการประเมินสื่อ ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา / คอมพิวเตอร์ / นักผลิตสื่อ อย่างละ 3 คน และจากผู้เรียน 3 , 9 และ อย่างน้อย 30 คน แบบเหมือนตำราเปี๊ยบเลย โดยใช้สถิติที่เป็น FREE WARE เช่น OPEN STAT , PSPP ฯลฯ
8. ทำอย่างที่ทำให้ระวังเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์
9. ข้อสุดท้ายนี่สำคัญมากครับ คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งนั้น เพราะได้ยินคนที่อยู่ที่นั่นเล่าให้ฟังว่า บ้านที่เพื่อน ๆ ของเรา อยู่ก็เป็นบ้านที่เล็ก ๆ ต้องอาศัยคนอื่นอยู่ เขาก็มาไล่ทุกวัน ( อาจารย์โอ๊บ เป็นคนบ่นให้ฟัง ) ชั้นหนึ่งที่ศิริราชก็โดนแย่งไปแล้ว พอเขามีสตางค์ ก็จะไปแบ่งลูกคนโปรดก่อน ลูกเหลือขออย่างเพื่อนเราก็ต้องอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ประทังชีวิตไปวัน ๆ ( มากว่า 40 ปี ) อยู่อย่างจน ๆ อดมื้อพอมีกินบางมื้อ ปากกัดตีนถีบไปเรื่อย ๆ เบื่อจริง ๆ เมื่อไหร่จะได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ซักที ทุกวันนั่งกินช้าวไป ก็ทนดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไป ไม่รู้ว่าคนที่นั่นเขาจะมีความสุขกับการกินข้าวพร้อมกับดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไปหรือเปล่า ? หรือคนที่นั่นชอบแบบนี้ ชีวิตและจิตใจจึงไม่เหมือนคนอื่น แต่เพื่อนเราไม่มีความสุขเลย วันก่อนมีข่าวดี พี่ตรีพงษ์ ติรางกูร ชวนให้ไปช่วยกันสร้างบ้านใหม่ ไม่ต้องไปทนอยู่อย่างอึดอัดแบบนี้ เขายังสงสัยว่า ทนได้อย่างไร มาตั้ง 40 ปี และไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนในส่วนนี้ งบประมาณที่มีอยู่ต้องเอาไปทำในสิ่งที่สำคัญกว่าก่อน จึงไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนอะไรทั้งนั้น ใครชอบจะทำอะไร ก็ทำกันไปตามใจรัก ทุกคนจึงต้องเอาโน๊ตบุ๊คที่พ่อแม่ซื้อให้เป็นรางวัลตอนสอบเอ็นทรานติด หรือเอาเงินที่กู้จาก กยศ มาซื้อ มาทำโปรเจ็คนี้ครับ
วันนี้ ขอเสนอ ไอเดีย ขำ ๆ แค่นี้ ก่อนนะครับ
สวัสดีครับ จากพี่หมอ p0119 tcu
ข่าวดีสำหรับสมาชิกทุกคน
ขณะนี้ ขั้นตอนการจัดซื้อ SOFTWARE ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ผมได้โปรแกรมทั้งชุด คือ e-LEARNING SUIT 2 ซึ่งประกอบด้วย พระเอกคือ ADOBE CAPTIVATE 5 พระรองคือ ADOBE PRESENTER ซึ่งทั้ง 2 โปรแกรม สามารถใช้ โปรแกรม MS POWERPOINT ทำสื่อการสอนก่อน และบันทึกเสียงลงไป จากนั้นก็มา CONVERT ลงใน CAPTIVATE / PRESENTER ก็ได้ทั้งคู่ โดยอาจารย์ อาจจะลองทำเปรียบเทียบดูทั้งคู่ แล้วดูว่ามีข้อแตกต่างอะไรบ้าง ขณะเดียวกัน หนังสือที่สั่งไว้ ก็ทยอยมากันเหมือนกับนัดไว้เลยครับ
คราวนี้ พอเปิดทำงานหลังสงกรานต์ เราก็จะเริ่มลุยกันเลยนะครับ ผมได้ปรึกษากับ ผศ.ดร.ยุทธพลว่า จะให้คุณตู่เอาโปรแกรมทั้งหมดลงไว้ใน SERVER ของคณะ เพื่อทุกคนจะได้ DOWNLOAD ไปลงในเครื่องของตัวเอง และลองเอา POWERPOINT ของตัวเองลงใส่เลยครับ ขณะเดียวกัน ก็ลองออกข้อสอบแบบต่าง ๆ ดู มีหลายแบบครับ ทั้ง
- MULTIPLE CHOICE ก็คือ เลือกข้อที่ต้องการ
- ถูก ผิด
- จับคู่
- เติมคำ แบบมีรูปแสดงได้ด้วย
- เติมประโยคสั้น ๆ
- เลือกตอบ 4 - 5 ตัวเลือก แบบ SCALE หรือ GRID ก็ได้
จึงบอกได้ว่า ทุกอย่างพร้อม คือ
1. ผู้สอน คือ ผม ได้สอบ และรับใบประกาศนียบัตร e-Learning Professional สาขา e-Project Manager สำเร็จเป็นใบแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเรียนมากว่า 3 ปี และในเดือน พค. และ พย. 54 ก็จะสำเร็จใบที่ 2 ก็คือ สาขา e-Teacher และ ใบที่ 3 คือ สาขา e-Courseware Designer และ จะเป็นคนแรก และคนเดียวของมหาวิทยาลัยมหิดลที่สำเร็จหลักสูตร e-Learning และ EDUCATIONAL RESEARCH จากมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพราะฉะนั้น ผู้เรียนสามารถมั่นใจได้เลยว่าหลักสูตรนี้ มีผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเสียงจริงสอนเองเลยครับ บวกกับ ผศ.ดร.ยุทธพล ก็จบปริญญาเอก ไอที จากอเมริกา สรุปว่าคอร์สนี้ สนุกแน่ครับ งานนี้รับประกัน
ว่า ไม่มีผู้สอนแบบว่า อ่านตำรา 3 เล่มจบแล้วตั้งตัวเองเป็นผู้เขี่ยวชาญมาสอนเหมือนบางวิชาที่ผ่านมานะครับ
2. SOFTWARE เป็นโปรแกรมที่ซื้อมา ถูกลิขสิทธิ์ เอามาทำสื่อการสอนได้สบายใจ
3. หนังสือคู่มือ ก็สั่งซื้อมาพร้อมแล้วครับ
เหลือเพียงผู้เรียนว่าจะพร้อมหรือเปล่า
อีกประการหนึ่ง ผมขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเลยว่า เปิดเทอมใหม่นี้ RT e-Learning Center จากภาควิชารังสีเทคนิค จะเปิดโครงการนำร่อง สอนแบบ e-Learning เป็นภาควิชาแรกของคณะเลยครับ จะเริ่มที่วิชา ANATOMY ก่อน โดยนำขึ้นแขวนใน MOODLE ของคณะ ฯ ก่อน เพื่อลองเช็คความพร้อมของ SERVER ของคณะ ฯ ในขณะเดียวกันก็สำรองไว้อีก 2 แห่ง เพื่อเกิดปัญหาล่มขึ้นมาเวลาผู้เรียนเข้าเรียนพร้อมกันกว่าร้อยคน หรือส่งการบ้านในช่วงที่จะหมดเวลาก็ทำให้ล่มได้ โดยเราได้ศึกษา และสำรองวิธีแก้ปัญหาไว้หมดแล้ว
จึงหวังว่าทุกคนคงจะเตรียมตัวให้พร้อมเพี่อที่จะได้เรียน e-Learning แบบ ขำ ๆ ต่อไป
สวัสดีครับ จากพี่หมอ
คราวนี้ พอเปิดทำงานหลังสงกรานต์ เราก็จะเริ่มลุยกันเลยนะครับ ผมได้ปรึกษากับ ผศ.ดร.ยุทธพลว่า จะให้คุณตู่เอาโปรแกรมทั้งหมดลงไว้ใน SERVER ของคณะ เพื่อทุกคนจะได้ DOWNLOAD ไปลงในเครื่องของตัวเอง และลองเอา POWERPOINT ของตัวเองลงใส่เลยครับ ขณะเดียวกัน ก็ลองออกข้อสอบแบบต่าง ๆ ดู มีหลายแบบครับ ทั้ง
- MULTIPLE CHOICE ก็คือ เลือกข้อที่ต้องการ
- ถูก ผิด
- จับคู่
- เติมคำ แบบมีรูปแสดงได้ด้วย
- เติมประโยคสั้น ๆ
- เลือกตอบ 4 - 5 ตัวเลือก แบบ SCALE หรือ GRID ก็ได้
จึงบอกได้ว่า ทุกอย่างพร้อม คือ
1. ผู้สอน คือ ผม ได้สอบ และรับใบประกาศนียบัตร e-Learning Professional สาขา e-Project Manager สำเร็จเป็นใบแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเรียนมากว่า 3 ปี และในเดือน พค. และ พย. 54 ก็จะสำเร็จใบที่ 2 ก็คือ สาขา e-Teacher และ ใบที่ 3 คือ สาขา e-Courseware Designer และ จะเป็นคนแรก และคนเดียวของมหาวิทยาลัยมหิดลที่สำเร็จหลักสูตร e-Learning และ EDUCATIONAL RESEARCH จากมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพราะฉะนั้น ผู้เรียนสามารถมั่นใจได้เลยว่าหลักสูตรนี้ มีผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเสียงจริงสอนเองเลยครับ บวกกับ ผศ.ดร.ยุทธพล ก็จบปริญญาเอก ไอที จากอเมริกา สรุปว่าคอร์สนี้ สนุกแน่ครับ งานนี้รับประกัน
ว่า ไม่มีผู้สอนแบบว่า อ่านตำรา 3 เล่มจบแล้วตั้งตัวเองเป็นผู้เขี่ยวชาญมาสอนเหมือนบางวิชาที่ผ่านมานะครับ
2. SOFTWARE เป็นโปรแกรมที่ซื้อมา ถูกลิขสิทธิ์ เอามาทำสื่อการสอนได้สบายใจ
3. หนังสือคู่มือ ก็สั่งซื้อมาพร้อมแล้วครับ
เหลือเพียงผู้เรียนว่าจะพร้อมหรือเปล่า
อีกประการหนึ่ง ผมขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเลยว่า เปิดเทอมใหม่นี้ RT e-Learning Center จากภาควิชารังสีเทคนิค จะเปิดโครงการนำร่อง สอนแบบ e-Learning เป็นภาควิชาแรกของคณะเลยครับ จะเริ่มที่วิชา ANATOMY ก่อน โดยนำขึ้นแขวนใน MOODLE ของคณะ ฯ ก่อน เพื่อลองเช็คความพร้อมของ SERVER ของคณะ ฯ ในขณะเดียวกันก็สำรองไว้อีก 2 แห่ง เพื่อเกิดปัญหาล่มขึ้นมาเวลาผู้เรียนเข้าเรียนพร้อมกันกว่าร้อยคน หรือส่งการบ้านในช่วงที่จะหมดเวลาก็ทำให้ล่มได้ โดยเราได้ศึกษา และสำรองวิธีแก้ปัญหาไว้หมดแล้ว
จึงหวังว่าทุกคนคงจะเตรียมตัวให้พร้อมเพี่อที่จะได้เรียน e-Learning แบบ ขำ ๆ ต่อไป
สวัสดีครับ จากพี่หมอ
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554
รายชื่อหนังสือ และสถานที่ยืม
คู่มือการใช้งาน OpenOffice.org ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์ ราคา 230 บาท
ยืมจาก ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
QA76.76.A65 ค695 2550
สร้างเว็บไซต์ให้ครบสูตรด้วย Drupal โดย อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ , สุกรี พัฒนภิรมย์ ราคา 325 บาท
ยืมจาก ห้องสมุด สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน
TK 5105.888 อ764ส 2552
วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553
WEB 2.0 กับการจัดการเรียนการสอน
WEB 2.0 กับการจัดการเรียนการสอน
เครือข่ายสังคมออนไลน์กับการใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน
WEB 2.0 เป็นยุคที่เน้นให้อินเตอร์เน็ตมีศักยภาพในการใช้งานมากขึ้น เน้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ลงบนเว็บไซต์ร่วมกัน และสามารถโต้ตอบกับข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ได้ และผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา ( Content ) แลกเปลี่ยน และกระจายข้อมูลกันได้ทั้งในระดับบุคคล หรือกลุ่ม จนกลายเป็นสังคมในโลกอินเตอร์เน็ต หรือเรียกว่า สังคมออนไลน์ นั่นเอง
สังคมออนไลน์ ( Social network ) คือสังคมที่ผู้คนสามารถทำความรู้จัก ร่วมแบ่งปันสิ่งที่สนใจ และสามารถเชื่อมโยงกันได้ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งในโลกอินเตอร์เน็ต โดยอาศัยรูปแบบการบริการ เรียกว่า บริการเครือข่ายสังคม ( Social networking service ) โดยแบบรูปแบบของเว็บไซต์ ในการสร้างเครือข่ายสังคม สำหรับผู้ใช้งานในอินเตอร์เน็ต ที่ใช้เขียนและอธิบายความสนใจ และกิจกรรมที่ได้ทำ และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น รวมทั้งข้อมูลส่วนตัว บทความ รูปภาพ ผลงาน พบปะ แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือความสนใจร่วมกัน และกิจกรรมอื่น ๆ รวมไปถึงเป็นแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ผู้ใช้สามารถช่วยกันสร้างเนื้อหาขึ้นได้ตามความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้บริการสังคมออนไลน์ มีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุดในอินเตอร์เน็ต และมีอัตราการเข้าใช้งาน และสมัครสมาชิกสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เว็บไซต์ Myspace และ Facebook นอกจากนี้ เว็บไซต์ที่ให้บริการสังคมออนไลน์มีหลากหลายเว็บไซต์ เช่น Digg , Youtube , Multiply , linkedin และเป็นที่นิยมกันมากที่สุดในสังคมวัยรุ่นบ้านเราคือ Hi5 นั่นเอง หลาย ๆ คนคงมี Web Social network เป็นของตัวเอง บางคนมีหลาย ๆ เว็บด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตาม เราสามารถประยุกต์ใช้สังคมออนไลน์ กับงานด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ หรือการเรียนการสอนในลักษณะของการแลกเปลี่ยนความรู้ ( Knowledge sharing ) ร่วมกัน การนำเสนอผลงาน การติวหนังสือด้วยกัน หรือแม้แต่กระทั่งการทำงานกลุ่มร่วมกัน ปัจจุบัน มีเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social networking service ( SNS ) มากมาย แต่ละเว็บก็ต่างคิดค้นพัฒนาเพื่อเอาใจผู้ใช้กันอย่างต่อเนื่อง อย่างไม่หยุดยั้ง และยังมีฟังก์ชั่นมากมาย แต่อาจจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปเพื่อเป็นจุดขายให้กับเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้เว็บ SNS เพื่อเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้ และทำงานร่วมกันได้ โดยกลุ่มหลัก ๆ ของ SNS เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบ่งออกได้ดังนี้
1. กลุ่มเว็บไซต์เผยแพร่ ตัวตน เว็บไซต์เหล่านี้ใช้สำหรับนำเสนอตัวตน และเผยแพร่เรื่องราวของตนเองทางอินเตอร์เน็ต หรือผู้ใช้สามารถเขียน blog สร้างอัลบั้มรูปตัวเอง สร้างกลุ่มเพื่อนในห้องเรียน และสร้างเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้ขึ้นมาได้ ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้ คือ myspace.com , hi5.com และ facebook เป็นต้น
2. กลุ่มเว็บไซต์เผยแพร่ ผลงาน เราสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้ ในการนำเสนอผลงานของตัวเอง ผลงานของกลุ่มได้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วีดิโอ , รูปภาพ หรือ เสียงที่อาจารย์สอนได้จากการบันทึกในชั้นเรียนเป็นต้น ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้ เช่น Youtube.com , Yahoo VDO , Google VDO , Flickr.com , Multiply.com เป็นต้น
3. กลุ่มเว็บไซต์ที่มีความสนใจตรงกัน
มีลักษณะเป็น Online Bookmarking หรือ Social Bookmarking โดยมีแนวคิดที่ว่า แทนที่เราจะทำ Bookmark ( เหมือนกับเราคั่นหนังสือ ) เว็บที่เราชอบ หรือบทความที่เกี่ยวข้องกับการเรียน เก็บไว้ในเครื่องของเราคนเดียว สู้เรา Bookmark เก็บไว้ในเว็บจะดีกว่า เพื่อจะได้แบ่งให้เพื่อนคนอื่นได้ดูด้วย และเราก็จะได้รู้ด้วยว่า เว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมาก เป็นที่น่าสนใจ โดยดูได้จากจำนวนตัวเลขที่เว็บไซด์นั้นถูก Bookmark เอาไว้จากสมาชิกคนอื่น ๆ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ ได้แก่ del.icio.us , Digg , Zickr , duocore.tv เป็นต้น
4. กลุ่มเว็บไซต์ที่ใช้ทำงานร่วมกัน
เป็นกลุ่ม SNS ที่เปิดให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มเข้ามานำเสนอข้อมูล ความคิด หรือ
ต่อยอด เรื่องราวต่าง ๆ ได้ ตัวอย่างเว็บไซด์นี้ ได้แก่
WikiPedia เป็นสารานุกรมต่อยอด ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน และแก้ไขบทความต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณืต่าง ๆ ไว้มากมาย
ปัจจุบัน เราสามารถใช้ Google Maps สร้างแผนที่ของตัวเอง หรือ แชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ด้วย จึงทำให้มีสถานที่สำคัญ หรือ สถานที่ต่าง ๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้น ๆ ไว้แสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
และสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึงสำหรับ Social network นั้นก็คือ เราสามารถพูดคุย นำเสนอ บอกเล่าเรื่องส่วนตัว และเรื่องราวการเรียน เรื่องราวที่เราสนใจ หรือแม้แต่การทำรายงานของเรา และของกลุ่มเราได้ ดังนั้น เราจึงควรใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตและเว็บสังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ แทนที่จะนำเสนอรูปภาพส่วนตัว หรือเรื่องราวที่ไม่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ หันมารวมกลุ่มกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกันโดยผ่านเว็บไซต์สังคมออนไลน์ที่มีให้บริการฟรีอยู่มากมายหลากหลายในอินเตอร์เน็ตนะครับ
( บทความลงเอกสาร MGT NEWs , วจก.SKRU by thanapat )
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)