วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สรุปงานจากการประชุมครั้งล่าสุด

กลุ่มวาดภาพ

     - เอกวิทย์  +  ฉัตรนรินทร์  =  วาดด้วยมือ  +  ลงสี  ในส่วนของ 
               -  Foot
               -  Skull
               -  Sacrum
               -  Hand
               -  Coccyx
     -  จรรยาพร  +  กมลชนก  +  อลิศา  =  Photoshop  ในส่วนของ
               -  Long bone
               -  Clavicle
               -  Rib
               -  Scapula
               - Sternum
     -  ขวัญลดา  +  ศิรดา  =  Photoshop  ในส่วนของ
               -  Hip
               -  Spine  C ,  T  ,  L  .
        และทำ  QC ด้วย   ตรวจภาพก่อนส่งฝ่าย  ANATOMY

สรุป ณ.วันที่  9  พย.  54

RT e-Learning กับภาวะน้ำท่วมกรุงเทพ

น้ำท่วมคราวนี้  สาหัสเป็นยิ่งนัก  ทำให้การเรียนการสอนหยุดไปถึงวันที่  14  พย. 54  ( ซึ่งหยุดไปแล้ว  3  สัปดาห์ทำท่าจะหยุดต่อไปอีก  ถึง  28  พย. 54  ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว  รวมแล้วจะหยุดไปถึง  5  สัปดาห์  การเรียนการสอนของปี  3  ซึ่งเทอมปลายปกติจะไม่มีหยุดก็แน่นอยู่แล้ว  ยังต้องติดลบไปอีก  5  สัปดาห์ก็ยังไม่รู้ว่าจะเปิดเทอมได้หรือเปล่า  รวมทั้ง  TERM  PAPER  ที่ต้องทำอยู่  ก็เลยคิดว่า  งาน  TERM  PAPER  ที่ได้ให้ไปทำคืองานรูปในระบบโครงกระดูกก็ยังต้องดำเนินต่อไป  ส่วนการสอนทำ  POWER POINT ที่จะบันทึกเสียงและทำเป็น   AUTHROPOINT LITE  และ  PRESENTER 7   ก็จะสอนทาง
อีเลิร์นนิ่งแทนไปเลย

ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลรวมทั้งความร่วมมือและความเสียสละในเวลากว่า  3  ปีของคณาจารย์ภาควิชารังสีเทคนิคที่ได้ไปเรียนหลักสูตร  e-Learning  Professional  จากมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย  สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ  ทำให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้สอนได้ทันทีในขณะที่การปิดการเรียนการสอนรวมทั้งการฝึกงานที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้เมือไหร่เพราะไม่มีผู้ใดออกมาบอกได้ว่าน้ำจะลดตอนไหน และจะเปิดการเรียนการสอนได้ไหม  แต่ทีมงาน  RT e-Learning  ก็ได้นำอีเลิร์นนิ่งมาใช้สอนในวิชา  TERM  PAPER  เลย  โดยจะเริ่ม  POSTบทความต่าง  ๆ  ลงไปใน  BLOG  นี้  และให้นักศึกษาที่อยู่ตามที่ต่าง  ๆ  ในประเทศไทยและทั่วโลกได้เรียนพร้อมกันไปเลยนะครับ  โดยเริ่มทำตั้งแต่วันพุธที่  9  พย.  54  เป็นต้นไป

สำหรับหัวข้อต่าง  ๆ  ผมจะทยอยลงใน  BLOG  ไปเรื่อย  ๆ  นะครับ

สวัสดีครับ  จากพี่หมอ

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

e-Learning และ EDUCATIONAL RESEARCH ที่กำลังจะได้รับการแก้ไขโดยตนเอง

TERM  PAPER  ของนักศึกษารังสีเทคนิคชั้นปีที่  4  สำหรับปีการศึกษานี้  ได้ทำขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขของคณะ ที่หมักหมมมาหลายปี คือ  เรามีการสัมมนาต่างจังหวัดกันมา  2  ครั้ง  (  ปี )  หมดเงินไปก็เยอะ  มีแต่ผู้ไม่รู้มานั่งสรุปและคุยกันแบบ  ขำ  ๆ  แล้วก็ไม่ได้อะไร  ที่นี่เขาจะถนัดที่จะเอาคนมาร่วมประชุม  ทำดูคล้าย  ๆ  ว่ามีผู้เชี่ยวชาญมา  BRAIN  (  AND  SPINAL  CORD  )  STROM  เสร็จแล้วก็ไม่ได้เนื้อหาสาระอะไร  
พวกเราเลยรู้สึกเบื่อที่จะมานั่งประชุมกับผู้ไม่รู้  หรือผู้ที่จำเอาขี้ปากของคนอื่นมาเล่าให้ฟังต่อแล้วอ้างตนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี่เรื่องนั้น  ทำเอาเวลาที่ควรจะไปทำอย่างอื่น  ก็ไม่ได้ทำ  คนทำงานก็เหลือแค่  9.5  คน  ต้องดูแลทั้งสาขาวิชา  แต่ก็ต้องเอาตัวรอด  และเป็นผู้นำตลอด

ในปีนี้  คงจะหวังพึ่งอะไร (  และหมดความคิดที่จะหวัง  ) จากใครไม่ได้ทั้งนั้น  จึงได้จัดทีมอิสระขึ้นมาเอง  ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัตใคร  ทุกคนมีความคิดอิสระทางวิชาการที่จะเสนอ  ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำเหมือนเด็ก  ๆ  ข้างบ้าน  จึงได้จัดกลุ่ม  RT  e-Learning  Center  ขึ้นมาที่จะได้เข้ามาช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง  และ  EDUCATIONAL  RESEARCH  ให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น  เราต้องช่วยกันเริ่มจากชุมชนเล็ก  ๆ  สร้างกลุ่มขึ้นมา  กลุ่มนี้จะต้องประกอบด้วยส่วนต่าง  ๆ  คล้ายกับส่วนต่าง  ๆ  ที่ทำให้เกิดเป็นคนขึ้นมาฉันนั้น  ผมบอกตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เริ่มเรียนวิชาแรกแล้วว่า  พบเพื่อนใหม่  พบสิ่งใหม่  ๆ  เป็นเรื่องจริงครับ  ถ้าทุกคนถนัดคนละอย่าง  เราก็สามารถสร้างงานขึ้นมาได้ครับ
         เหมือนกับเทอมนี้  ผมดีไซน์งานใหม่  ให้นักศึกษาชั้นปีที่  4  ลองแยกงานกันทำตามที่ตนถนัด  โดยผมกำหนดว่า 
     1.  จะต้องสร้างสื่อบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่เรียน  เช่น  วิชากายวิภาคศาสตร์ 
     2.  ต้องมีปฏิสัมพันธ์สด  เช่นใช้    RED  5   หรือโปรแกรมอื่น  ๆ
     3.  มีการออกข้อสอบทดสอบความรู้ของผู้เรียนให้  CONCEPT  ตรงกับสื่อการสอนที่อธิบายถึงวิธี  และแนวทางการออกข้อสอบให้เข้ามาตรฐานสากล
     4.  โปรแกรมที่ใช้  ขอเป็น  OPEN  SOURCE  ให้มากที่สุด
     5.  รูปภาพที่ใช้  ให้วาดใหม่ทั้งหมด  ,  มีการบันทึกเสียงเหมือนสอนจริง  ,  มี  ANIMATION  ที่เหมาะสมและจำเป็นจริง  ๆ
     6.  ให้แขวนสื่อการสอนที่ทำเสร็จ  ไว้บน  MOODLE  และให้น้องปี  3  มาทำการเรียนจริง
     7.  มีการประเมินสื่อ  ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา  /  คอมพิวเตอร์  /  นักผลิตสื่อ  อย่างละ  3  คน  และจากผู้เรียน  3  ,  9  และ  อย่างน้อย  30  คน  แบบเหมือนตำราเปี๊ยบเลย  โดยใช้สถิติที่เป็น  FREE  WARE  เช่น  OPEN  STAT  ,  PSPP  ฯลฯ
     8.  ทำอย่างที่ทำให้ระวังเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์
     9.  ข้อสุดท้ายนี่สำคัญมากครับ  คือ  ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งนั้น  เพราะได้ยินคนที่อยู่ที่นั่นเล่าให้ฟังว่า  บ้านที่เพื่อน  ๆ ของเรา อยู่ก็เป็นบ้านที่เล็ก  ๆ  ต้องอาศัยคนอื่นอยู่  เขาก็มาไล่ทุกวัน  (  อาจารย์โอ๊บ  เป็นคนบ่นให้ฟัง  )  ชั้นหนึ่งที่ศิริราชก็โดนแย่งไปแล้ว  พอเขามีสตางค์  ก็จะไปแบ่งลูกคนโปรดก่อน  ลูกเหลือขออย่างเพื่อนเราก็ต้องอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ประทังชีวิตไปวัน  ๆ  (  มากว่า  40  ปี  )   อยู่อย่างจน  ๆ  อดมื้อพอมีกินบางมื้อ  ปากกัดตีนถีบไปเรื่อย  ๆ  เบื่อจริง  ๆ  เมื่อไหร่จะได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ซักที   ทุกวันนั่งกินช้าวไป  ก็ทนดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไป  ไม่รู้ว่าคนที่นั่นเขาจะมีความสุขกับการกินข้าวพร้อมกับดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไปหรือเปล่า  ?  หรือคนที่นั่นชอบแบบนี้  ชีวิตและจิตใจจึงไม่เหมือนคนอื่น  แต่เพื่อนเราไม่มีความสุขเลย  วันก่อนมีข่าวดี  พี่ตรีพงษ์  ติรางกูร  ชวนให้ไปช่วยกันสร้างบ้านใหม่  ไม่ต้องไปทนอยู่อย่างอึดอัดแบบนี้  เขายังสงสัยว่า  ทนได้อย่างไร  มาตั้ง  40  ปี และไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนในส่วนนี้  งบประมาณที่มีอยู่ต้องเอาไปทำในสิ่งที่สำคัญกว่าก่อน  จึงไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนอะไรทั้งนั้น  ใครชอบจะทำอะไร  ก็ทำกันไปตามใจรัก  ทุกคนจึงต้องเอาโน๊ตบุ๊คที่พ่อแม่ซื้อให้เป็นรางวัลตอนสอบเอ็นทรานติด  หรือเอาเงินที่กู้จาก  กยศ  มาซื้อ  มาทำโปรเจ็คนี้ครับ
วันนี้  ขอเสนอ  ไอเดีย  ขำ  ๆ  แค่นี้  ก่อนนะครับ
สวัสดีครับ  จากพี่หมอ  p0119  tcu 

ข่าวดีสำหรับสมาชิกทุกคน

ขณะนี้  ขั้นตอนการจัดซื้อ  SOFTWARE  ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว  ผมได้โปรแกรมทั้งชุด  คือ  e-LEARNING  SUIT  2  ซึ่งประกอบด้วย  พระเอกคือ  ADOBE  CAPTIVATE  5  พระรองคือ  ADOBE  PRESENTER  ซึ่งทั้ง  2  โปรแกรม  สามารถใช้  โปรแกรม  MS  POWERPOINT  ทำสื่อการสอนก่อน  และบันทึกเสียงลงไป  จากนั้นก็มา  CONVERT  ลงใน  CAPTIVATE  /  PRESENTER  ก็ได้ทั้งคู่  โดยอาจารย์  อาจจะลองทำเปรียบเทียบดูทั้งคู่  แล้วดูว่ามีข้อแตกต่างอะไรบ้าง  ขณะเดียวกัน  หนังสือที่สั่งไว้  ก็ทยอยมากันเหมือนกับนัดไว้เลยครับ
คราวนี้  พอเปิดทำงานหลังสงกรานต์  เราก็จะเริ่มลุยกันเลยนะครับ  ผมได้ปรึกษากับ  ผศ.ดร.ยุทธพลว่า  จะให้คุณตู่เอาโปรแกรมทั้งหมดลงไว้ใน  SERVER  ของคณะ  เพื่อทุกคนจะได้  DOWNLOAD  ไปลงในเครื่องของตัวเอง  และลองเอา  POWERPOINT  ของตัวเองลงใส่เลยครับ  ขณะเดียวกัน  ก็ลองออกข้อสอบแบบต่าง  ๆ  ดู  มีหลายแบบครับ  ทั้ง 
          -  MULTIPLE  CHOICE  ก็คือ  เลือกข้อที่ต้องการ
          -  ถูก  ผิด
          -  จับคู่
          -  เติมคำ  แบบมีรูปแสดงได้ด้วย
          -  เติมประโยคสั้น  ๆ
          -  เลือกตอบ  4  -  5  ตัวเลือก  แบบ  SCALE  หรือ  GRID  ก็ได้

จึงบอกได้ว่า  ทุกอย่างพร้อม  คือ
     1.  ผู้สอน  คือ  ผม  ได้สอบ  และรับใบประกาศนียบัตร  e-Learning  Professional  สาขา  e-Project  Manager  สำเร็จเป็นใบแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  หลังจากเรียนมากว่า  3  ปี  และในเดือน  พค.  และ  พย.  54  ก็จะสำเร็จใบที่  2  ก็คือ สาขา e-Teacher  และ  ใบที่  3  คือ  สาขา  e-Courseware  Designer   และ  จะเป็นคนแรก  และคนเดียวของมหาวิทยาลัยมหิดลที่สำเร็จหลักสูตร  e-Learning และ EDUCATIONAL  RESEARCH  จากมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย  สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ  เพราะฉะนั้น  ผู้เรียนสามารถมั่นใจได้เลยว่าหลักสูตรนี้  มีผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเสียงจริงสอนเองเลยครับ  บวกกับ  ผศ.ดร.ยุทธพล  ก็จบปริญญาเอก  ไอที  จากอเมริกา  สรุปว่าคอร์สนี้ สนุกแน่ครับ  งานนี้รับประกัน
ว่า  ไม่มีผู้สอนแบบว่า  อ่านตำรา  3 เล่มจบแล้วตั้งตัวเองเป็นผู้เขี่ยวชาญมาสอนเหมือนบางวิชาที่ผ่านมานะครับ
          2.  SOFTWARE  เป็นโปรแกรมที่ซื้อมา  ถูกลิขสิทธิ์  เอามาทำสื่อการสอนได้สบายใจ
          3.  หนังสือคู่มือ  ก็สั่งซื้อมาพร้อมแล้วครับ
เหลือเพียงผู้เรียนว่าจะพร้อมหรือเปล่า

อีกประการหนึ่ง  ผมขอประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเลยว่า  เปิดเทอมใหม่นี้  RT e-Learning  Center  จากภาควิชารังสีเทคนิค  จะเปิดโครงการนำร่อง  สอนแบบ  e-Learning  เป็นภาควิชาแรกของคณะเลยครับ  จะเริ่มที่วิชา  ANATOMY  ก่อน  โดยนำขึ้นแขวนใน  MOODLE  ของคณะ  ฯ  ก่อน  เพื่อลองเช็คความพร้อมของ  SERVER  ของคณะ  ฯ  ในขณะเดียวกันก็สำรองไว้อีก  2  แห่ง  เพื่อเกิดปัญหาล่มขึ้นมาเวลาผู้เรียนเข้าเรียนพร้อมกันกว่าร้อยคน  หรือส่งการบ้านในช่วงที่จะหมดเวลาก็ทำให้ล่มได้  โดยเราได้ศึกษา  และสำรองวิธีแก้ปัญหาไว้หมดแล้ว
          จึงหวังว่าทุกคนคงจะเตรียมตัวให้พร้อมเพี่อที่จะได้เรียน  e-Learning  แบบ  ขำ  ๆ  ต่อไป

สวัสดีครับ  จากพี่หมอ

   

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

รายชื่อหนังสือ และสถานที่ยืม

คู่มือการใช้งาน  OpenOffice.org  ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  กระทรวงวิทยาศาสตร์  ราคา  230  บาท
ยืมจาก  ห้องสมุดสตางค์  มงคลสุข  คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหิดล
QA76.76.A65  695  2550

สร้างเว็บไซต์ให้ครบสูตรด้วย  Drupal  โดย  อิสริยะ  ไพรีพ่ายฤทธิ์  ,  สุกรี  พัฒนภิรมย์  ราคา  325  บาท 
ยืมจาก  ห้องสมุด  สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน
TK  5105.888  764ส  2552

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

WEB 2.0 กับการจัดการเรียนการสอน


WEB 2.0  กับการจัดการเรียนการสอน

เครือข่ายสังคมออนไลน์กับการใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน

          WEB 2.0  เป็นยุคที่เน้นให้อินเตอร์เน็ตมีศักยภาพในการใช้งานมากขึ้น  เน้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง    ลงบนเว็บไซต์ร่วมกัน  และสามารถโต้ตอบกับข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ได้  และผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา  ( Content )  แลกเปลี่ยน  และกระจายข้อมูลกันได้ทั้งในระดับบุคคล  หรือกลุ่ม  จนกลายเป็นสังคมในโลกอินเตอร์เน็ต  หรือเรียกว่า  สังคมออนไลน์  นั่นเอง
     สังคมออนไลน์  (  Social  network  )  คือสังคมที่ผู้คนสามารถทำความรู้จัก  ร่วมแบ่งปันสิ่งที่สนใจ  และสามารถเชื่อมโยงกันได้ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งในโลกอินเตอร์เน็ต  โดยอาศัยรูปแบบการบริการ  เรียกว่า  บริการเครือข่ายสังคม  (  Social  networking  service  )  โดยแบบรูปแบบของเว็บไซต์  ในการสร้างเครือข่ายสังคม  สำหรับผู้ใช้งานในอินเตอร์เน็ต  ที่ใช้เขียนและอธิบายความสนใจ  และกิจกรรมที่ได้ทำ  และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น  รวมทั้งข้อมูลส่วนตัว  บทความ  รูปภาพ  ผลงาน  พบปะ  แสดงความคิดเห็น  แลกเปลี่ยนประสบการณ์  หรือความสนใจร่วมกัน  และกิจกรรมอื่น    รวมไปถึงเป็นแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ผู้ใช้สามารถช่วยกันสร้างเนื้อหาขึ้นได้ตามความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
     ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้บริการสังคมออนไลน์  มีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุดในอินเตอร์เน็ต  และมีอัตราการเข้าใช้งาน  และสมัครสมาชิกสูงสุด  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง   เว็บไซต์  Myspace  และ  Facebook  นอกจากนี้  เว็บไซต์ที่ให้บริการสังคมออนไลน์มีหลากหลายเว็บไซต์  เช่น  Digg  ,  Youtube  ,  Multiply  ,  linkedin  และเป็นที่นิยมกันมากที่สุดในสังคมวัยรุ่นบ้านเราคือ  Hi5  นั่นเอง  หลาย    คนคงมี  Web  Social  network  เป็นของตัวเอง  บางคนมีหลาย    เว็บด้วยซ้ำไป  อย่างไรก็ตาม  เราสามารถประยุกต์ใช้สังคมออนไลน์  กับงานด้านต่าง    ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ  หรือการเรียนการสอนในลักษณะของการแลกเปลี่ยนความรู้  (  Knowledge  sharing  )  ร่วมกัน  การนำเสนอผลงาน  การติวหนังสือด้วยกัน  หรือแม้แต่กระทั่งการทำงานกลุ่มร่วมกัน  ปัจจุบัน  มีเว็บไซต์ที่ให้บริการ  Social  networking  service   (  SNS  )  มากมาย  แต่ละเว็บก็ต่างคิดค้นพัฒนาเพื่อเอาใจผู้ใช้กันอย่างต่อเนื่อง  อย่างไม่หยุดยั้ง  และยังมีฟังก์ชั่นมากมาย  แต่อาจจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปเพื่อเป็นจุดขายให้กับเว็บไซต์นั้น    ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้เว็บ  SNS  เพื่อเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้   และทำงานร่วมกันได้  โดยกลุ่มหลัก    ของ  SNS  เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบ่งออกได้ดังนี้
          1.  กลุ่มเว็บไซต์เผยแพร่  ตัวตน   เว็บไซต์เหล่านี้ใช้สำหรับนำเสนอตัวตน  และเผยแพร่เรื่องราวของตนเองทางอินเตอร์เน็ต  หรือผู้ใช้สามารถเขียน  blog  สร้างอัลบั้มรูปตัวเอง  สร้างกลุ่มเพื่อนในห้องเรียน  และสร้างเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้ขึ้นมาได้  ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้  คือ  myspace.com  ,  hi5.com  และ  facebook   เป็นต้น
          2.   กลุ่มเว็บไซต์เผยแพร่  ผลงาน  เราสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้  ในการนำเสนอผลงานของตัวเอง  ผลงานของกลุ่มได้ในรูปแบบต่าง    ไม่ว่าจะเป็น  วีดิโอ  ,  รูปภาพ  หรือ  เสียงที่อาจารย์สอนได้จากการบันทึกในชั้นเรียนเป็นต้น  ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้  เช่น  Youtube.com  ,  Yahoo VDO  ,  Google  VDO  ,  Flickr.com  ,  Multiply.com  เป็นต้น
          3.   กลุ่มเว็บไซต์ที่มีความสนใจตรงกัน
                  มีลักษณะเป็น  Online  Bookmarking   หรือ  Social Bookmarking  โดยมีแนวคิดที่ว่า  แทนที่เราจะทำ   Bookmark (  เหมือนกับเราคั่นหนังสือ  )  เว็บที่เราชอบ  หรือบทความที่เกี่ยวข้องกับการเรียน  เก็บไว้ในเครื่องของเราคนเดียว  สู้เรา  Bookmark  เก็บไว้ในเว็บจะดีกว่า  เพื่อจะได้แบ่งให้เพื่อนคนอื่นได้ดูด้วย  และเราก็จะได้รู้ด้วยว่า  เว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมาก  เป็นที่น่าสนใจ  โดยดูได้จากจำนวนตัวเลขที่เว็บไซด์นั้นถูก  Bookmark  เอาไว้จากสมาชิกคนอื่น    ตัวอย่างเว็บไซต์นี้  ได้แก่  del.icio.us  ,  Digg  ,  Zickr  ,  duocore.tv  เป็นต้น
4.        กลุ่มเว็บไซต์ที่ใช้ทำงานร่วมกัน
เป็นกลุ่ม  SNS   ที่เปิดให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มเข้ามานำเสนอข้อมูล  ความคิด  หรือ 
ต่อยอด  เรื่องราวต่าง    ได้  ตัวอย่างเว็บไซด์นี้  ได้แก่
              WikiPedia  เป็นสารานุกรมต่อยอด  ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน  และแก้ไขบทความต่าง    ได้ตลอดเวลา  ทำให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้  ข่าวสาร  และเหตุการณืต่าง    ไว้มากมาย
                    ปัจจุบัน  เราสามารถใช้  Google  Maps  สร้างแผนที่ของตัวเอง  หรือ  แชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ด้วย  จึงทำให้มีสถานที่สำคัญ  หรือ  สถานที่ต่าง    ถูกปักหมุดเอาไว้  พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้น    ไว้แสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
และสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึงสำหรับ  Social  network   นั้นก็คือ  เราสามารถพูดคุย  นำเสนอ  บอกเล่าเรื่องส่วนตัว  และเรื่องราวการเรียน  เรื่องราวที่เราสนใจ  หรือแม้แต่การทำรายงานของเรา  และของกลุ่มเราได้  ดังนั้น  เราจึงควรใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตและเว็บสังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์  แทนที่จะนำเสนอรูปภาพส่วนตัว  หรือเรื่องราวที่ไม่ก่อให้เกิดการเรียนรู้  หันมารวมกลุ่มกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกันโดยผ่านเว็บไซต์สังคมออนไลน์ที่มีให้บริการฟรีอยู่มากมายหลากหลายในอินเตอร์เน็ตนะครับ
(  บทความลงเอกสาร  MGT NEWs , วจก.SKRU  by  thanapat   )