WEB 2.0 กับการจัดการเรียนการสอน
เครือข่ายสังคมออนไลน์กับการใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน
WEB 2.0 เป็นยุคที่เน้นให้อินเตอร์เน็ตมีศักยภาพในการใช้งานมากขึ้น เน้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ลงบนเว็บไซต์ร่วมกัน และสามารถโต้ตอบกับข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ได้ และผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา ( Content ) แลกเปลี่ยน และกระจายข้อมูลกันได้ทั้งในระดับบุคคล หรือกลุ่ม จนกลายเป็นสังคมในโลกอินเตอร์เน็ต หรือเรียกว่า สังคมออนไลน์ นั่นเอง
สังคมออนไลน์ ( Social network ) คือสังคมที่ผู้คนสามารถทำความรู้จัก ร่วมแบ่งปันสิ่งที่สนใจ และสามารถเชื่อมโยงกันได้ในทิศทางใดทิศทางหนึ่งในโลกอินเตอร์เน็ต โดยอาศัยรูปแบบการบริการ เรียกว่า บริการเครือข่ายสังคม ( Social networking service ) โดยแบบรูปแบบของเว็บไซต์ ในการสร้างเครือข่ายสังคม สำหรับผู้ใช้งานในอินเตอร์เน็ต ที่ใช้เขียนและอธิบายความสนใจ และกิจกรรมที่ได้ทำ และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น รวมทั้งข้อมูลส่วนตัว บทความ รูปภาพ ผลงาน พบปะ แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือความสนใจร่วมกัน และกิจกรรมอื่น ๆ รวมไปถึงเป็นแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ผู้ใช้สามารถช่วยกันสร้างเนื้อหาขึ้นได้ตามความสนใจของแต่ละบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้บริการสังคมออนไลน์ มีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุดในอินเตอร์เน็ต และมีอัตราการเข้าใช้งาน และสมัครสมาชิกสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เว็บไซต์ Myspace และ Facebook นอกจากนี้ เว็บไซต์ที่ให้บริการสังคมออนไลน์มีหลากหลายเว็บไซต์ เช่น Digg , Youtube , Multiply , linkedin และเป็นที่นิยมกันมากที่สุดในสังคมวัยรุ่นบ้านเราคือ Hi5 นั่นเอง หลาย ๆ คนคงมี Web Social network เป็นของตัวเอง บางคนมีหลาย ๆ เว็บด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตาม เราสามารถประยุกต์ใช้สังคมออนไลน์ กับงานด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ หรือการเรียนการสอนในลักษณะของการแลกเปลี่ยนความรู้ ( Knowledge sharing ) ร่วมกัน การนำเสนอผลงาน การติวหนังสือด้วยกัน หรือแม้แต่กระทั่งการทำงานกลุ่มร่วมกัน ปัจจุบัน มีเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social networking service ( SNS ) มากมาย แต่ละเว็บก็ต่างคิดค้นพัฒนาเพื่อเอาใจผู้ใช้กันอย่างต่อเนื่อง อย่างไม่หยุดยั้ง และยังมีฟังก์ชั่นมากมาย แต่อาจจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปเพื่อเป็นจุดขายให้กับเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้เว็บ SNS เพื่อเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้ และทำงานร่วมกันได้ โดยกลุ่มหลัก ๆ ของ SNS เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบ่งออกได้ดังนี้
1. กลุ่มเว็บไซต์เผยแพร่ ตัวตน เว็บไซต์เหล่านี้ใช้สำหรับนำเสนอตัวตน และเผยแพร่เรื่องราวของตนเองทางอินเตอร์เน็ต หรือผู้ใช้สามารถเขียน blog สร้างอัลบั้มรูปตัวเอง สร้างกลุ่มเพื่อนในห้องเรียน และสร้างเครือข่ายเพื่อการเรียนรู้ขึ้นมาได้ ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้ คือ myspace.com , hi5.com และ facebook เป็นต้น
2. กลุ่มเว็บไซต์เผยแพร่ ผลงาน เราสามารถใช้เว็บไซต์เหล่านี้ ในการนำเสนอผลงานของตัวเอง ผลงานของกลุ่มได้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วีดิโอ , รูปภาพ หรือ เสียงที่อาจารย์สอนได้จากการบันทึกในชั้นเรียนเป็นต้น ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้ เช่น Youtube.com , Yahoo VDO , Google VDO , Flickr.com , Multiply.com เป็นต้น
3. กลุ่มเว็บไซต์ที่มีความสนใจตรงกัน
มีลักษณะเป็น Online Bookmarking หรือ Social Bookmarking โดยมีแนวคิดที่ว่า แทนที่เราจะทำ Bookmark ( เหมือนกับเราคั่นหนังสือ ) เว็บที่เราชอบ หรือบทความที่เกี่ยวข้องกับการเรียน เก็บไว้ในเครื่องของเราคนเดียว สู้เรา Bookmark เก็บไว้ในเว็บจะดีกว่า เพื่อจะได้แบ่งให้เพื่อนคนอื่นได้ดูด้วย และเราก็จะได้รู้ด้วยว่า เว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมาก เป็นที่น่าสนใจ โดยดูได้จากจำนวนตัวเลขที่เว็บไซด์นั้นถูก Bookmark เอาไว้จากสมาชิกคนอื่น ๆ ตัวอย่างเว็บไซต์นี้ ได้แก่ del.icio.us , Digg , Zickr , duocore.tv เป็นต้น
4. กลุ่มเว็บไซต์ที่ใช้ทำงานร่วมกัน
เป็นกลุ่ม SNS ที่เปิดให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มเข้ามานำเสนอข้อมูล ความคิด หรือ
ต่อยอด เรื่องราวต่าง ๆ ได้ ตัวอย่างเว็บไซด์นี้ ได้แก่
WikiPedia เป็นสารานุกรมต่อยอด ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน และแก้ไขบทความต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณืต่าง ๆ ไว้มากมาย
ปัจจุบัน เราสามารถใช้ Google Maps สร้างแผนที่ของตัวเอง หรือ แชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ด้วย จึงทำให้มีสถานที่สำคัญ หรือ สถานที่ต่าง ๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้น ๆ ไว้แสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
และสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึงสำหรับ Social network นั้นก็คือ เราสามารถพูดคุย นำเสนอ บอกเล่าเรื่องส่วนตัว และเรื่องราวการเรียน เรื่องราวที่เราสนใจ หรือแม้แต่การทำรายงานของเรา และของกลุ่มเราได้ ดังนั้น เราจึงควรใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตและเว็บสังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ แทนที่จะนำเสนอรูปภาพส่วนตัว หรือเรื่องราวที่ไม่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ หันมารวมกลุ่มกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ร่วมกันโดยผ่านเว็บไซต์สังคมออนไลน์ที่มีให้บริการฟรีอยู่มากมายหลากหลายในอินเตอร์เน็ตนะครับ
( บทความลงเอกสาร MGT NEWs , วจก.SKRU by thanapat )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น