TERM PAPER ของนักศึกษารังสีเทคนิคชั้นปีที่ 4 สำหรับปีการศึกษานี้ ได้ทำขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขของคณะ ที่หมักหมมมาหลายปี คือ เรามีการสัมมนาต่างจังหวัดกันมา 2 ครั้ง ( ปี ) หมดเงินไปก็เยอะ มีแต่ผู้ไม่รู้มานั่งสรุปและคุยกันแบบ ขำ ๆ แล้วก็ไม่ได้อะไร ที่นี่เขาจะถนัดที่จะเอาคนมาร่วมประชุม ทำดูคล้าย ๆ ว่ามีผู้เชี่ยวชาญมา BRAIN ( AND SPINAL CORD ) STROM เสร็จแล้วก็ไม่ได้เนื้อหาสาระอะไร
พวกเราเลยรู้สึกเบื่อที่จะมานั่งประชุมกับผู้ไม่รู้ หรือผู้ที่จำเอาขี้ปากของคนอื่นมาเล่าให้ฟังต่อแล้วอ้างตนเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี่เรื่องนั้น ทำเอาเวลาที่ควรจะไปทำอย่างอื่น ก็ไม่ได้ทำ คนทำงานก็เหลือแค่ 9.5 คน ต้องดูแลทั้งสาขาวิชา แต่ก็ต้องเอาตัวรอด และเป็นผู้นำตลอด
ในปีนี้ คงจะหวังพึ่งอะไร ( และหมดความคิดที่จะหวัง ) จากใครไม่ได้ทั้งนั้น จึงได้จัดทีมอิสระขึ้นมาเอง ไม่ต้องอยู่ใต้อาณัตใคร ทุกคนมีความคิดอิสระทางวิชาการที่จะเสนอ ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำเหมือนเด็ก ๆ ข้างบ้าน จึงได้จัดกลุ่ม RT e-Learning Center ขึ้นมาที่จะได้เข้ามาช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง และ EDUCATIONAL RESEARCH ให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น เราต้องช่วยกันเริ่มจากชุมชนเล็ก ๆ สร้างกลุ่มขึ้นมา กลุ่มนี้จะต้องประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ คล้ายกับส่วนต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดเป็นคนขึ้นมาฉันนั้น ผมบอกตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เริ่มเรียนวิชาแรกแล้วว่า พบเพื่อนใหม่ พบสิ่งใหม่ ๆ เป็นเรื่องจริงครับ ถ้าทุกคนถนัดคนละอย่าง เราก็สามารถสร้างงานขึ้นมาได้ครับ
เหมือนกับเทอมนี้ ผมดีไซน์งานใหม่ ให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ลองแยกงานกันทำตามที่ตนถนัด โดยผมกำหนดว่า
1. จะต้องสร้างสื่อบทเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่เรียน เช่น วิชากายวิภาคศาสตร์
2. ต้องมีปฏิสัมพันธ์สด เช่นใช้ RED 5 หรือโปรแกรมอื่น ๆ
3. มีการออกข้อสอบทดสอบความรู้ของผู้เรียนให้ CONCEPT ตรงกับสื่อการสอนที่อธิบายถึงวิธี และแนวทางการออกข้อสอบให้เข้ามาตรฐานสากล
4. โปรแกรมที่ใช้ ขอเป็น OPEN SOURCE ให้มากที่สุด
5. รูปภาพที่ใช้ ให้วาดใหม่ทั้งหมด , มีการบันทึกเสียงเหมือนสอนจริง , มี ANIMATION ที่เหมาะสมและจำเป็นจริง ๆ
6. ให้แขวนสื่อการสอนที่ทำเสร็จ ไว้บน MOODLE และให้น้องปี 3 มาทำการเรียนจริง
7. มีการประเมินสื่อ ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญเนื้อหา / คอมพิวเตอร์ / นักผลิตสื่อ อย่างละ 3 คน และจากผู้เรียน 3 , 9 และ อย่างน้อย 30 คน แบบเหมือนตำราเปี๊ยบเลย โดยใช้สถิติที่เป็น FREE WARE เช่น OPEN STAT , PSPP ฯลฯ
8. ทำอย่างที่ทำให้ระวังเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์
9. ข้อสุดท้ายนี่สำคัญมากครับ คือ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งนั้น เพราะได้ยินคนที่อยู่ที่นั่นเล่าให้ฟังว่า บ้านที่เพื่อน ๆ ของเรา อยู่ก็เป็นบ้านที่เล็ก ๆ ต้องอาศัยคนอื่นอยู่ เขาก็มาไล่ทุกวัน ( อาจารย์โอ๊บ เป็นคนบ่นให้ฟัง ) ชั้นหนึ่งที่ศิริราชก็โดนแย่งไปแล้ว พอเขามีสตางค์ ก็จะไปแบ่งลูกคนโปรดก่อน ลูกเหลือขออย่างเพื่อนเราก็ต้องอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ประทังชีวิตไปวัน ๆ ( มากว่า 40 ปี ) อยู่อย่างจน ๆ อดมื้อพอมีกินบางมื้อ ปากกัดตีนถีบไปเรื่อย ๆ เบื่อจริง ๆ เมื่อไหร่จะได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ซักที ทุกวันนั่งกินช้าวไป ก็ทนดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไป ไม่รู้ว่าคนที่นั่นเขาจะมีความสุขกับการกินข้าวพร้อมกับดมกลิ่นขี้กลิ่นเยี่ยวไปหรือเปล่า ? หรือคนที่นั่นชอบแบบนี้ ชีวิตและจิตใจจึงไม่เหมือนคนอื่น แต่เพื่อนเราไม่มีความสุขเลย วันก่อนมีข่าวดี พี่ตรีพงษ์ ติรางกูร ชวนให้ไปช่วยกันสร้างบ้านใหม่ ไม่ต้องไปทนอยู่อย่างอึดอัดแบบนี้ เขายังสงสัยว่า ทนได้อย่างไร มาตั้ง 40 ปี และไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนในส่วนนี้ งบประมาณที่มีอยู่ต้องเอาไปทำในสิ่งที่สำคัญกว่าก่อน จึงไม่มีงบประมาณที่จะสนับสนุนอะไรทั้งนั้น ใครชอบจะทำอะไร ก็ทำกันไปตามใจรัก ทุกคนจึงต้องเอาโน๊ตบุ๊คที่พ่อแม่ซื้อให้เป็นรางวัลตอนสอบเอ็นทรานติด หรือเอาเงินที่กู้จาก กยศ มาซื้อ มาทำโปรเจ็คนี้ครับ
วันนี้ ขอเสนอ ไอเดีย ขำ ๆ แค่นี้ ก่อนนะครับ
สวัสดีครับ จากพี่หมอ p0119 tcu
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น